Worlddidac มีต้นกำเนิดที่สวิชสแลนด์ที่เป็นงานเกี่ยวกับงานศึกษา ซึ่งงานนี้จำได้คับคล้ายคับคลาที่เคยมาจัดที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิต เมื่อหลาย 10 ปีก่อน ที่น่าจะเป็นฮอลล์ C แต่เงียบมากๆและมีผู้มาออกงานก็น้อยมากด้วย แต่ก็กลับมาจัดอย่างยิ่งใหญ่ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตตามเดิม เข้าใจว่าจัดโดยบริษัทจากประเทศสิงค์โปร ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เขาจัดที่ประเทศสิงค์โปร  แต่คราวนี้เขาจัดที่ห้อง planali hall

ตามความเข้าใจของผม สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เขาได้เลือกให้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาทางการของสมาคม เพราะเห็นว่า British Council ดูจะเป็นตัวตั้งตัวตีอย่างมาก เพราะก่อนหน้านี้ British Council ก็ได้ให้ทุนผอ.คนไทยไปดูงานที่ประเทศสิงค์โปร รวมทั้งประเทศอังกฤษด้วย

งานนี้เกี่ยวกับการศึกษา ซึ่งผมก็อยากไปชมงานที่ประเทศสวิสแลนด์ แต่เมื่อมาจัดที่ประเทศไทย ผมจึงเข้าไปชม ซึ่งในครั้งนู้น ขณะที่นั่งทานอาหารกลางวันที่ศูนย์อาหาร ก็ห้อมร้อมไปด้วยผู้นำทางการศึกษาของรัฐบาลต่างๆทั่วเอเชีย ตั้งแต่ที่มาจากกรุงโตเกียว กรุงปักกิ่ง ไปจนถึงกรุงเตฮาลาน และเขาทีการประชุมทางวิชาการเป็นภาษาอังกฤษมากมายหลายห้อง แต่หลังจากที่ประเทศไทยเกิดการรัฐประหารก็ดูว่าการให้ความสนับสนุนงานนี้จาก British Council และ UNESCO ก็ดูจะทิ้งงานนี้ไป และครั้งสุดท้ายที่ผมเห็นงานนี้จัดที่ประเทศไทย British Council ก็ดูจะถอยๆไป และปีสุดท้ายที่เขาจัดในประเทศไทย ก็คือปีที่น้ำท่วมที่นางสาวยิ่งลักษณ์ เข้ามารับตำแหน่ง และเขาย้ายไปจัดที่ประเทศเวียดนามแทน และหลังจากนั้นผมก็ไม่ได้ไปเที่ยวชมงานอีกเลย

แต่ก่อนหน้าที่จะมีงาน Worlddidac Asia 2019 ผมถึงทราบว้าขามาจัดที่ประเทศไทย แต่ไม่ทราบว่าเขามาจัดก่อนหน้านี้กี่ปี แต่ครั้งนี้เขาได้ย้ายจากที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิต มาจัดที่ไบเทคบางนา ซึ่งดูเหมือนว่าสถานที่เดิมเขาจะต้องก่อสร้างใหม่

ในงานนี้ดูท่าเขาจะเน้นการประชุมวิชาการไม่มากนัก เพราะดูห้องบรรยายหลายห้องก็เพียงแต่เป็นกันอะไรเตี้ยๆ ซึ่งคนที่เดินผ่านไปผ่านมาก็สามารถเห็น ฟัง และชมได้

สินค้าที่ถือว่าเป็นโสตทัศนูปรณ์เพื่อการศึกษาที่เด่นจริงๆ ก็จะเป็นของโปรเจคเตอร์ EPSON และก็ยังพอมีพวกกระดานอัจฉริยะไม่กี่เจ้า ซึ่งส่วนใหญ่ดูจะเป็นของเกรดล่างๆ รวมทั้งมีกล้องวิชัวไลเซอร์อยู่เพียงเจ้าเดียว ซึ่งก็ดูเป็นสินค้าที่เป็นรองและสินค้าทั้ง 2 ชนิดนี้ล้วนมาจกาประเทศจีน

สมัยก่อนสินค้าที่โชว์จะเน้นไปทางด้านช่างไปจนถึงระดับอุดมศึกษา ซึ่งแต่ก่อนถ้าจะเป็นหุ่นยนต์ก็จะเป็นของเกาหลีมากมาย ถ้าจะเป็นพวกช่างยนต์ ฟิสิกส์ เคมี ส่วนใหญ่จะเป็นอิตาลี ของจากยุโรปและของจีนจะมีน้อยเช่นกัน และครั้งนี้ก็ไม่เห็นจะมีอุปกรณ์การสอนระดับอนุบาลเลย

หน่วยงานด้านการศึกษาที่มาออกงานนี้ เห็นเพียง Goethe-institut ซึ่งที่นี่ผมได้คุยกับเจ้าหน้าที่ว่าผู้จัดงานจากประเทศสิงค์โปร เขาอ่านออกเสียงว่า เวิลด์ไดก  แต่เนื่องจาก Worlddidac กำเนิดจากสวิสแลนด์ ซึ่งประเทศนี้มีภาษาราชกาลเป็น เยอรมันฯ ผรังเศษ และอิจาลี ผมจึงออกเสียงว่า เวิลด์อิดัก ซึ่งเจ้าหน้าที่ของ Goethe เขาก็บอกว่าเขาเองก็เรียก เวิลด์ดิดัก เหมือนกัน

ตามความรู้สึกผม ผมอยากเห็นงานนี้ค่อยๆกลับมาเฟื้องฟูเหมือนเมื่อก่อนที่จะมีการรัฐประหาร