ระบบป้องกันฝาปิดช่องลิฟยกจอมอนิเตอร์หนีบมือ
      ผมมีโอกาสทดลองระบบป้องกันฝาปิดช่องลิฟยกจอมอนิเตอร์ของ Best AV รุ่น BML-19 ซึ่งเป็นลิฟยกจอมอนิเตอร์ขนาด 19 นิ้ว แต่ไหนๆก็เขียนถึงลิฟยกจอมอนิเตอร์ยี่ห้อนี้แล้ว ผมขอเพิ่มเติมข้อมูลนิดหน่อย คือแต่เดิมขนาดของจอมอนิเตอร์มีอัตราส่วน 4:3  แต่ปัจจุบันจอมอนิเตอร์มีอัตราส่วน 16:9 ดังนั้นลิฟยกจอมอนิเตอร์ขนาด 19 นิ้วในปัจจุบัน จะสามารถใช้กับจอมอนิเตอร์ที่มีอัตราส่วน 16:9 ขนาด 19 นิ้วได้เลย ซึ่งไม่เหมือนแต่ก่อน ที่หากเราต้องการจะเอาจอมอนิเตอร์ที่มีอัตราส่วน 16:9 ขนาด 19 นิ้ว เราไม่สามารถที่จะใช้ลิฟยกจอมอนิเตอร์ขนาด 19 นิ้วได้ เพราะลิฟยกจอขนาด 19 นิ้วนั้นเขาหมายถึงจอที่มีขนาดอัตราส่วน 4:3 เราจึงต้องกระโดดมาใช้ลิฟขนาด 22 นิ้วเลย การเปลี่ยนขนาดช่องลิฟยกจอมอนิเตอร์ในปัจจุบัน ให้ตรงกับอัตราส่วน 16:9 จึงลดปัญหาเรื่องสั่งของผิดขนาด

      ไหนๆก็จะพูดถึงระบบป้องกันฝาปิดช่องลิฟยกจอมอนิเตอร์ ถ้าจะพูดถึงตัวลิฟยกจอมอนิเตอร์ Best AV ในซีรีย์ BML-19 คือที่หน้าปัดทำด้วยอลูมิเนียมหนา 4 มม. เหมือนๆกับยี่ห้ออื่นๆ และขัดให้เป็นลายขนแมว และมีให้เลือกทั้งสีอลูมิเนียมและสีชุบดำ (Anodize) ขนาดหน้าปัด 55 x 15.8 ซม. ขนาดช่องลิฟ 8.1 x 48 ซม.

      เมื่อดูที่ตัวถังก็พบว่าเขาทำผิวกล่องทั้ง 4 ด้านในแนวตั้งเป็นแผ่นเรียบ ไม่มีการปั้มให้เป็นลอนเหมือนกับหลายยี่ห้อ เพื่อเพิ่มความแข็งของตัววัสดุ แต่เขาก็ยังมีการปั้มช่องระบายความร้อนเป็นแนวยาวๆที่ดูเรียบร้อยดี สีที่เขาใช้พ่นบนตัวถังนี้เป็นสีดำด้าน ซึ่งต่างจากยี่ห้ออื่นๆตรงที่พวกเขาจะใช้สีที่ดูแล้วเป็นมันเงา การที่เขาทำเป็นสีด้านนี้สำหรับผมแล้ว ดูเป็นของดีและเมื่อถอดสกรูออกเพื่อดูภายใน ก็รู้สึกว่าแผ่นเหล็กที่เขาใช้ทำตัวถังนี้ มีความหนาและมีคามหนักกว่าของยี่ห้ออื่น อาจเป็นเหตุผลนี้มั้งที่เขาคิดว่าไม่จำเป็นจะต้องทำตัวถังให้เป็นลอนเพื่อเพิ่มความแข็งแรง รูที่เขาเจาะที่ฝาเพื่อใช้ขันสกรูนี้ มีความกว้างเกือบเท่าๆกับขนาดของสกรู ซึ่งยึดกับตัวถังด้านบนกับด้านล่าง ด้านละ 3 ตัว ซึ่งเมื่อขันสกรูคืนเพื่อปิดฝาไปตามเดิม ก็ทำได้ไม่ยากเย็น แสดงว่ารูที่ฝาปิดตัวถังนี้มีความแม่นยำกับรูสกรู เพราะไม่เช่นนั้นรูที่ฝาปิดตัวถังนี้จะต้องใหญ่ และต้องใช้แหวนช่วยปิดรูสกรู

ระบบขับเคลื่อนเขาใช้มอเตอร์ 2 ชุด ซึ่งเป็นมอเตอร์ชนิด Synchronous ซึ่งก็เป็นมอเตอร์ชนิดเดียวกับลิฟยกจอมอนิเตอร์ทุกยี่ห้อ โดยมอเตอร์ตัวหนึ่งทำหน้าที่ยกเสายึดจอให้ขึ้น โดยผ่านสายพานยางที่เงียบมากๆ ส่วนมอเตอร์อีก 1 ตัว ทำหน้าที่เอนจอมอนิเตอร์ไปด้านหลัง ที่หน้าปัดด้านบนมีสวิตที่ทำด้วยแผ่นพลาสติกนิ่มและแบน โดย 3 สวิตแรกจะเป็นสวิต ลง-ขึ้น-หยุด ซึ่งทั้ง 3 สวิตนี้เป็นสวิตแบบแตะแล้วจาก หมายความว่าเมื่อเรากดสวิตขึ้นแล้วปล่อยมือสวิตก็จะจาก แต่ระบบทำงานก็ยังยกจอขึ้นจนสุด แล้วมอเตอร์ก็จะมีระบบตัดไฟให้มอเตอร์หยุดทำงาน แล้วมีมอเตอร์อีกตัวจะทำหน้าที่เอนจอไปด้านหลังจนสุด แล้วมีระบบตัดไฟเมื่อจอเอนได้มากสุดแล้ว ระหว่างที่เสายกจอกำลังยกขึ้น

หากมีเหตุจำเป็นจะต้องหยุดก็ให้กดสวิตหยุดแล้วปล่อย สวิตก็จะจากแล้วมอเตอร์ก็ยังจะหยุดอยู่ในตำแหน่งเดิม หรือในกรณีที่ระหว่างยกจอขึ้น แล้วเราต้องการจให้จอหดลงไปในตัวตู้ลิฟ เราไม่สามารถที่จะกดสวิตให้จอลงได้ทันที เราต้องกดสวิตหยุดก่อนแล้วถึงจะกดสวิตลง ซึ่งสวิตตัวที่ 4 และ 5 จะเป็นชนิดกดแล้วหากค้างมือไว้จอก็จะเอนไปข้างหลังและจะหยุดก็ต่อเมื่อผู้ใช้เอามือออกจากสวิต ส่วนอีก 1 สวิตก็จะให้จอเอนกลับมาตั้งฉากกับตู้ลิฟ ซึ่งก็เป็นสวิตชนิดกดแช่ก็จะทำงานต่อไป แต่ถ้าปล่อยมือก็จะหยุด ซึ่งสวิตเอนจอไปด้านหลังนี้หากกดค้างไว้จนเอนสุดแล้ว ก็จะตัดไฟเองมอเตอร์ก็จะไม่ทำงาน ซึ่งก็เหมือนกับสวิตยกจอที่กลับมาตั้งฉากกับตู้ลิฟ

ขณะที่ไม่ได้ใช้งานจอจะถูกเก็บไว้ในตู้ลิฟ และมีฝาปิดช่องลิฟทำให้เราเห็นแต่หน้าปัดของตู้ลิฟเรียบๆ เมื่อกดสวิตให้จอยกขึ้นฝาปิดช่องลิฟจะเปิดออก โดยฝาลิฟจะหุบลงไปด้านข้างแนบกับตู้ลิฟ แล้วจอมอนิเตอร์ก็จะค่อยๆถูกยกขึ้น เมื่อยกขึ้นมาจนสุดแล้วมอเตอร์ก็จะหยุด และด้านล่างของเสายึดจอก็จะมีแผ่นอลูมิเนียมแบบเดียวกับหน้าปัดขึ้นมาบังช่องลิฟ เพื่อไม่ให้เห็นภาพในของช่องลิฟ แล้วจอก็จะเอนไปด้านหลัง ซึ่งเมื่อจอยกขึ้นสุดแล้วนี้ก็จะมีไฟไปเลี้ยงจอ โดยผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องเปิดสวิตจออีกทีหนึ่ง เว้นแต่ใครไปปิดมันไว้ เมื่อจะเก็บจอลงในตู้ลิฟไฟที่ไปเลี้ยงจอก็จะตัด ทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องปิดไฟจอฯเอง แล้วจอก็จะยกขึ้นตั้งฉากกับหน้าปัดลิฟแล้วค่อยๆหดลงไปจนสุดแล้วมอเตอร์ก็จะหยุดทำงาน หลังจากนั้นฝาลิฟก็จะปิด เมื่อปิดสนิทแล้วมอเตอร์ที่ทำหน้าที่ปิดช่องลิฟก็จะหยุดทำงาน

ลิฟฯตัวที่ผมทดลองนี้มากับสายภาพ VGA ซึ่งเราสามารถต่อสายนี้กับจอมอนิเตอร์ และสายไฟที่ต่อกับตัวจอมอนิเตอร์เหมือนกัน โดยผู้ติดตั้งระบบลิฟนี้จะเอาสายภาพ VGA กับสายไฟฟ้าเสียบเข้ากับที่ด้านล่างของตัวตู้ลิฟ ไม่ต้องเดินขึ้นไปจนถึงจอมอนิเตอร์ และใกล้ๆกับปลั๊กเหล่านี้ก็ยังมีปลั๊ก HD D-Sub 9 ขาเข็ม ซึ่งเป็นปลั๊กมาตรฐานของปลั๊ก Serial ซึ่งผมมีความสงสัยว่าในยุคนี้แล้วทำไมปลั๊ก Serial จึงยังเป็นแบบ D-Sub 9 ขาเข็ม ซึ่งถ้าเป็นในเครื่องคอมพิวเตอร์แรกๆเลย เขาได้เปลี่ยนเป็น Mini Round DIN 4 ขา และในที่สุดก็เปลี่ยนเป็น USB (Universal Serial Bus) ซึ่ง Serial Bus นี้มีทั้ง RS232 และ RS485 สำหรับต่อกับระบบควบคุมส่วนกลาง ซึ่งหากเป็นยี่ห้อที่คนรู้จักดีของอเมริกา AMX หรือ Crestron เพื่อใช้สั่งงาน ซึ่งในกรณีนี้เขาสามารถโปรแกรมให้ลิฟทุกตัวยกขึ้นหรือยกลงพร้อมกันหมด หรือจะสั่งแต่ละตัวหรือจะสั่งแต่ละกลุ่มก็ได้ แล้วแต่เขาจะโปรแกรม นอกจากนั้นยังมีรีโมทไร้สาย โดยใช้คลื่นวิทยุ RS แต่รีโมทไร้สายนี้ จะสั่งได้เฉพาะลิฟแต่ละตัว และสั่งให้ได้เฉพาะขึ้น ลง และหยุดเท่านั้น ไม่สามารถควบคุมจอให้เอนหน้าและถอยหลังได้ แต่หากผู้ใช้ต้องการให้รีโมท 1 ตัว ควบคุมลิฟได้ทุกตัวก็จะต้องมาโปรแกรมใหม่

ลิฟยกจอมอนิเตอร์ของ Best AV นี้จะแตกต่างกับลิฟยกจอมอนิเตอร์รุ่นก่อนๆตรงที่ ลิฟยกจอมอนิเตอร์รุ่นก่อนๆเมื่อยกจอฯขึ้นสุดแล้ว จะสามารถเอนไปด้านหลังได้เพียง 5 องศา แต่ของ Best Av นี้สามารถเอนจอได้ด้านหลังได้ถึง 15 องศา ก็ทำให้น่าใช้มากขึ้นไปหน่อย

แต่เดิมหากใครเอานิ้วมือไปขวางทางฝาปิดช่องลิฟขณะเก็บจอฯ ฝาลิฟจะหนีบนิ้วมือแบบไม่ปล่อยสร้างความเจ็บปวดให้กับผู้ถูกหนีบอย่างมาก และขณะเกิดอุบัติเหตุนี้หลายคนจะทำอะไรไม่ถูก เพราะระบบจะทำงานให้ครบวงจร เราไม่สามารถที่จะยกจอกลับขึ้นมาใหม่แล้วเปิดฝาลิฟได้ทันที เพราะสวิตยกจอจะไม่ทำงานจนกว่าเราจะกดปุ่มหยุด แล้วค่อยกดสวิตยกจอฯขึ้นใหม่ ซึ่งเรามักพบว่าห้องประชุมที่มีลิฟยกจอมอนิเตอร์ มักมีให้กับผู้บริหารระดับสูงเป็นผู้ใช้ ทำให้อุบัติเหตุฝาปิดช่องลิฟฯหนีบมือกลายเป็นเรื่องใหญ่โต

ลิฟยกจอมอนิเตอร์ Best AV สามารถสั่งซื้อพิเศษให้มีระบบป้องกันฝาปิดช่องลิฟฯไม่ให้หนีบมือ ซึ่งระบบของเขาเป็นระบบกลไกล แต่ผมก็ยังเสียวอยู่ ไม่กล้าเอามือจริงๆเข้าไปแหย่ในช่องลิฟขณะกำลังเก็บจอฯ ผมจึงเอากระดาษมาม้วน แล้วแหย่ลงไปขณะที่ลิฟกำลังเก็บจอฯ ผลก็คือฝาปิดช่องลิฟจะหนีบม้วนกระดาษเข้ามา ก็ไม่ถึงกับแรงนัก แล้วจะค่อยๆเปิดฝาลิฟใหม่ แล้วจอก็จะยกขึ้นไปอย่างเดิม เพื่อที่จะได้รับรู้แรงกดของฝาปิดช่องลิฟอย่างแท้จริง ผมจึงยอมเอานิ้วเข้าไปแหย่ให้ฝาปิดช่องลิฟหนีบ ผลปรากฏว่าแรงหนีบก็ถือว่าแรงเหมือนกันแต่ก็พอทนได้ ถ้าใครโดนหนีบอาจร้องอุทานออกมาด้วยความตกใจมากกว่าความเจ็บ

ตามความเห็นของผม ถ้ามีงบพอที่จะติดตั้งระบบป้องกันอุบัติเหตุจากฝาปิดช่องลิฟหนีบมือ/นิ้วนี้ ก็น่าจะยอมเสียเงิน แม้อุบัติเหตุแบบนี้จะไม่น่าเกิดขึ้นได้ง่ายก็ตาม แต่สมมุติว่าท่านมีลิฟยกจอมอนิเตอร์อยู่ 40 ตัว ค่าติดตั้งระบบป้องกันฯนี้จะสูงถึง 80,000 บาท ซึ่งอาจจะฟังดูก็ไม่ใช่น้อยก็จริง แต่ผมเชื่อว่าสามารถได้ส่วนลดจากผู้ขายได้ตั้งแต่ 20% - 50% ซึ่งขึ้นอยู่กับจำนวนลิฟที่ท่านซื้อ